Thai IT Talk

เว็ปไซต์ข่าวไอทีและเทคโนโลยีแบบฉบับภาษาไทย

ShareThis



หลังจากที่เมื่อวานผู้ที่ได้รับ iPhone 4 เป็นคนแรกๆก็ได้บ่นออกมาว่าขนาดเครื่องใหม่อย่างนี้ยังมีปัญหาเลย วันนี้หลังจากที่คนโวยกันมาก Apple ก็คงเงียบต่อไม่ได้แล้วหละ... วันนี้ Apple ก็ออกมาแถลง(แก้ตัว)ว่าด้วยเรื่องจริง โดยได้อ้างว่าถ้าคุณจะถือโทรศัพท์มือถือรุ่นไหนก็ได้ ถ้าไปแตะตรงจุดรับสัญญาณของโทรศัพท์หรือ Antenna สัญญาณก็จะหายไป และในการแถลงชี้แจงจากทาง Apple ก็ได้บอกไว้ว่า "ถ้าคุณได้ประสบปัญหาอย่างนี้ก็ต้องไม่ถือเครื่องมือซ้ายเพราะจะโดนตัวรับสัญญาณ หรือซื้อเคสซีลีโคนซักอัน" และอีกหนึ่งกรณีคือ Steve Jobs ได้ตอบกลับอีเมล์จากคนนึงจากเว็ป MacRumors ได้ถาม Steve Jobs เรื่องวิธีการแก้ไขหรือทำอย่างไรไม่ให้มันเกิด และแล้ว CEO ผู้ยิ่งใหญ่แห่ง Apple ก็ตอบกลับสั้นๆว่า "ไม่ได้เป็นประเด็นมากมาย แค่อย่าถือเครื่องอย่างนั้น" ส่วนนาย Spencer Webb ผู้ออกแบบตัว Antenna ก็ยอมรับว่าทาง FCC AT&T และทาง Apple ก็ได้ขอมาอย่างนั้น

หลังจากที่ข่าวพวกนั้นออกมาทำให้ Barb Dybwad ได้เริ่มมีความคิดและสงสัยเหมือนผมว่า ถ้าเราย้อนกลับไปงาน WWDC ที่ผ่านมา Accessories แรกๆที่ Apple ได้ประกาศหรือเสนอก็คือ Case สีที่ชื่อ Bumper... ที่เหมือนเป็นแค่กรอบรอบ iPhone และขายในราคา $29 มันเลยดูมีพิรุจว่า Apple รู้เรื่องนี้มานานแล้วแต่ไม่บอก พอเจอปัญหาก็หาทางออกด้วยการบอกว่าต้องซื้อเคส Bumper เท่านั้น เพราะตัว Bumper เป็นแค่ยางที่อยู่รอบข้างในการกันระหว่างมือกับ Antenna เราเลยมองว่า Apple พยายามหาเงินเพิ่มแบบเล็กๆน้อยๆด้วยการใช้วิธีไม่สะอาด... แต่ก็ต้องรอกันต่อไปว่าล็อตต่อๆไปจะเจอปัญหาไหม?

แต่หลังจากที่เกิดขึ้น ก็ทำให้คนที่ชอบจับผิดได้ไปหาวีดีโอเกี่ยวกับ iPhone 4 ที่ Apple ได้นำเสนอก่อนหน้านี้แต่ได้จับรูปในวีดีโอที่คนถือ iPhone 4 ด้วยมือซ้ายและมือโดนกับตัว Antenna ทำให้ตอนนี้ Apple ต้องรับศึกหนักเลยช่วงนี้...

สิ่งที่ต้องติดตามหลังจากนี้: - คำชี้แจงของ Apple แบบชัดเจนกว่าเดิม
                                            - ข้อเสียของ iPhone 4 จะมีอีกไหม?
                                            - เคส Bumper ช้วยแก้ปัญหาได้จริงหรือเปล่า....
                                            - ล็อตต่อไปของ iPhone 4 จะมีปัญหาอย่างนี้อีกไหม?

ขอขอบคุณบทความครั้งนี้ด้วยความคิดเห็นของผมและ PC World และ Mashable

blog comments powered by Disqus สมัครสมาชิก: ส่งความคิดเห็น (Atom)