Thai IT Talk

เว็ปไซต์ข่าวไอทีและเทคโนโลยีแบบฉบับภาษาไทย

ShareThis



มีรายงานมากจาก Wall Street Journal ว่าทางบริษัท Sony ได้เรียกคืนเครื่องโน็ตบุ็ค VAIO กว่า 500,000 เครื่อง เหตุผลเนื่องมาจาก "ปัญหาอุณภูมิของเครื่องที่ร้อนจัดซึ่งอาจส่งผลให้ความร้อนนั้นเปลี่ยนรูปทรงได้" และก็ "ปัญหาเครื่องร้อนจัดทำให้อาจทำให้ผิวลวกได้" โดย Wall Street Journal ได้เขียนเพิ่มเติมอีกว่าเครื่องที่ตกอยู่ในหมวดที่อาจจะถูกเรียกคืนจากโซนี่นั่นก็มีเครื่องที่เป็น F-Series และ C-Series โน็ตบุ็คของ VAIO นี่ได้ซื้อและวางขายเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยที่จากถูกเรียกคืน ตัวเลขมีดังนี้...
  • 259,000 เครื่องที่ สหรัฐอเมริกา
  • 103,000 เครื่องที่ ยุโรป
  • 120,000 เครื่องที่ เอเชีย
  • 52,000 เครื่องที่ ญี่ปุ่น
Sony ได้ระบุด้วยว่า ท่านผู้ได้รับผลกระทบครั้งนี้สามารถอก้ปัญหาด้วยตัวเองก็ได้ ด้วยการดาว์นโหลด Patch จากเว็บของ Sony หรือจะมาฝากเครื่องห้กับทาง Sony ไปซ่อมให้ก็ได้ มีใครบ้างที่ประสบปัญหานี้ มาแชร์กันที่คอมเมนต์หน่อย...

---จบข่าว---

ขอขอบคุณ BGR

หลังจากที่ Google ได้เปิดตัว Froyo หรือ Android 2.2 ในงาน Google I/O ที่ผ่านมาและ Google Nexus One ก็เป็นเจ้าแรกแล้ว ทำให้บริษัทนึงในไต้หวันที่ทำเรื่องมือถือได้แจ้งให้กับเว็บ Recombo ว่าคาดว่ามือถือของ HTC ที่เป็นรุ่น 2010 อาทิ Legend, Desire, Wildfire จะได้ร่วมวง Froyo ใน Quarter 3 นี้ โดยคาดว่าน่าอยู่ในขั้นเริ่มต้นของไตรมาส3เลยทีเดียว ต้องติดตาม...

ขอขอบคุณ Engadget

เราลองมาดูคลิปนี้กัน...



ขอขอบคุณ Blognone

ช่วงนี้ Apple ได้ออกมือถือที่คาดว่าจะเป็นตัวทำให้ Apple ดังขึ้นนั่นก็คือ iPhone 4 ซึ่งสามารถทำให้หลายคนเสียตังค์ได้ไม่น้อยและทำให้บริษัทมือถืออื่นมองว่า Apple เป็นศรัตตรูอย่างชัดเจน และเมื่อเวลาศรัตตรูเสียเปรียบมีหรือที่จะพลาด งานนี้ Nokia ได้เขียนลงบล็อกของเขาซ้ำเติมกรณีสัญญาณที่ขาดหายของ iPhone 4 โดยมีหัวข้อว่า "How Do You Hold Your Nokia?" และได้สาธิตถึงการถือเครื่อง Nokia อย่างสี่แบบ นั่นก็คือการถือธรรมดานี่แหละ แต่ท้ายสุด Nokia ได้เขียนว่า "คุณไม่จำเป็นต้องทำตามวิธีการถือ คุณสามารถถืออย่างไรก็ได้ และสัญญาณคุณก็จะไม่มีวันหาย เจ๋งปะ?"

---เจ็บไหม Apple???---

ขอขอบคุณ Blognone และ Nokia Conversation

เอาละครับ ข่าวสั้นมาอีกแล้วเมื่อแอพขวัญใจชาวทวิตเตอร์ของ BlackBerry ได้เฮเมื่อแอพอย่าง UberTwitter ออกรุ่นใหม่แล้ว โดยส่วนมากก็ไม่ได้มีอะไรใหม่มากนอกจาก icon, timeline, tweet ที่มีรูปร่างหน้าตาสวยกว่าเดิมและ User Interface ที่สวยขึ้น แฟนๆ BB ไปดูกันได้เลยแล้วโหลดได้เลย
ขอขอบคุณ PDAMobiz และ UberTwitter

หลังจากเมื่อเดือนสองเดือนก่อน HTC ได้เปิดตัมือถือที่รองรับระบบ 4G ตัวแรกโดยมีชื่อว่า HTC Evo 4G แต่วันนี้สำหรับคนที่ไม่ชอบ HTC ก็ไม่เป็นไร เพราะว่า Samsung ก็ออกมือถือ 4G นั่นก็คือ "Samsung Epic 4G" แต่นี่ก็เป็น 4G ตัวแรกเช่นกันที่สามารถสไลด์ได็เป็น QWERTY คีย์บอร์ด โดยดูจากสเปคทั่วไปถือว่าเยี่ยมมาก...
  • มีโปรเซสเซอร์ที่สูงมากนั่นคือ Cortex A8 Samsung Hummingbird และใช้ 1 GHz
  • เป็น Android 2.1 (สามารถอัพเป็น 2.2 ได้ในอนาคต)
  • จอ 4"นิ้ว พร้อม Super AMOILED 
  • มีกล้อง 5 ล้านพิกเซล, ออโต้โฟกัส, ซูมได้คูน3, และหล้องวีดีโอ HD โดยเป็นระดับ 720p
  • มีกล้องตัวหน้า
  • รองรับ WiFi 802.11b/g/n
  • รองรับ Flash
  • และมี Samsung Media Hub
โดย Samsung Epic 4G จะนำขายโดย Sprint และจะวางขายในเดือนหน้า ส่วนราคาทาง Sprint ขอยังไม่เปิดเผย สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถไปอัพเดทกับทาง Sprint ได้ครับ

ขอขอบคุณ BetaNews

ผมต้องขออภัยจริงๆสำหรับคนที่เบื่อเรื่อง Apple หรือ iPhone แต่ว่าตอนนี้มันชิงที่ข่าวไปหมดเลย... เอาละครับ หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา iPhone 4 ได้เปิดตัว แปปเดียวปัญหาก็เยอะล้นหลาม และวันนี้ข่าวสั้นมันมีสองอย่าง เดี๋ยวจะมาสรุปให้...
  1. หลังจากที่ iPhone 4 ออกมาได้ยังไม่ถึงหนึ่งวันเลย ก็มีปัญหาอย่างมากเรื่องสัญญาณ เมื่อวานก็เลยมีข่าวลือว่าสัปดาห์หน้า Apple จะออก iOS 4.01 เพื่อแก้ปัญหาสัญญาณ ไม่รู้จะจริงแค่ไหนต้องรอกัน
  2. มีข่าวลือออกมาอีก คราวนี้จากประเทศอังกฤษ หลังจากที่ลูกค้าได้ไปต่อว่าจำนวนมากเกี่ยวกับการที่สัญญาณหายของ iPhone 4 มีข่าวลือว่า Apple เตรียมส่งออกแถมฟรี Case Bumper ให้กับคนที่เจอปัญหา ... และเรื่องสัญญาณก็เป็นข้ออ้างให้ Orange ที่อังกฤษแถว่ามันดีเลย์ก็เพราะปัญหานี้...
ขอขอบคุณ Blognone และ Techcrunch

เอาละครับ มาเข้าข่าวสั้นละกันครับ ข่าวนี้สำหรับคนที่บ้าเล่นเน็ตไปเลย... Thunderbird 3.1 ออกแล้ว... โดยได้เพิ่มหลายอย่าง มีดังนี้...
  • เซิร์ชเมล์ที่ต้องการได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
  • มี Quick Filter Toolbar ที่เป็นเหมือน Toolbar ที่สามารถเลือกการแสดงผลของอีเมล์ได้เช่น โชว์แต่อีกเมล์ติดดาว, อีเมล์จากคนที่เลือกเอาไว้, อีเมล์ที่ยังไม่ได้อ่าน, หรืออีเมล์ที่มีไฟล์หรือรูปติดมาด้วย
  • มี New Migration Assistant ที่สามารถให้ผู้ใช้ที่เคยใช้ Thunderbird 2 มาใช้ Thunderbird 3.1 โดยสามารถเลือกฟีเจอร์อย่างดั่งเดิมได้
  • มี Saved File Manager ที่แสดงไฟล์ทั้งหมดที่คุณได้ดาว์นโหลดจากอีเมล์คุณ
  • และ Thunderbird 3.1 ได้มีการทำให้เวลาคุณสร้างอีเมล์ใหม่ คุณแค่กรอกแค่ ชื่อ,อีเมล์,พาสเวิร์ด และที่เหลือ Thunderbird กรอกให้เองจาก ISP ที่มีก่อนหน้านี้
  • แก้ไขปัญหาทั่วๆไป 
เป็นไงละครับ ถือว่าไม่เลวเลย สำหรับแฟนๆ Thunderbird โหลดได้ที่นี่เลยครับ

ขอขอบคุณ Mozilla และ Blognone

หลังจากที่เมื่อวานผู้ที่ได้รับ iPhone 4 เป็นคนแรกๆก็ได้บ่นออกมาว่าขนาดเครื่องใหม่อย่างนี้ยังมีปัญหาเลย วันนี้หลังจากที่คนโวยกันมาก Apple ก็คงเงียบต่อไม่ได้แล้วหละ... วันนี้ Apple ก็ออกมาแถลง(แก้ตัว)ว่าด้วยเรื่องจริง โดยได้อ้างว่าถ้าคุณจะถือโทรศัพท์มือถือรุ่นไหนก็ได้ ถ้าไปแตะตรงจุดรับสัญญาณของโทรศัพท์หรือ Antenna สัญญาณก็จะหายไป และในการแถลงชี้แจงจากทาง Apple ก็ได้บอกไว้ว่า "ถ้าคุณได้ประสบปัญหาอย่างนี้ก็ต้องไม่ถือเครื่องมือซ้ายเพราะจะโดนตัวรับสัญญาณ หรือซื้อเคสซีลีโคนซักอัน" และอีกหนึ่งกรณีคือ Steve Jobs ได้ตอบกลับอีเมล์จากคนนึงจากเว็ป MacRumors ได้ถาม Steve Jobs เรื่องวิธีการแก้ไขหรือทำอย่างไรไม่ให้มันเกิด และแล้ว CEO ผู้ยิ่งใหญ่แห่ง Apple ก็ตอบกลับสั้นๆว่า "ไม่ได้เป็นประเด็นมากมาย แค่อย่าถือเครื่องอย่างนั้น" ส่วนนาย Spencer Webb ผู้ออกแบบตัว Antenna ก็ยอมรับว่าทาง FCC AT&T และทาง Apple ก็ได้ขอมาอย่างนั้น

หลังจากที่ข่าวพวกนั้นออกมาทำให้ Barb Dybwad ได้เริ่มมีความคิดและสงสัยเหมือนผมว่า ถ้าเราย้อนกลับไปงาน WWDC ที่ผ่านมา Accessories แรกๆที่ Apple ได้ประกาศหรือเสนอก็คือ Case สีที่ชื่อ Bumper... ที่เหมือนเป็นแค่กรอบรอบ iPhone และขายในราคา $29 มันเลยดูมีพิรุจว่า Apple รู้เรื่องนี้มานานแล้วแต่ไม่บอก พอเจอปัญหาก็หาทางออกด้วยการบอกว่าต้องซื้อเคส Bumper เท่านั้น เพราะตัว Bumper เป็นแค่ยางที่อยู่รอบข้างในการกันระหว่างมือกับ Antenna เราเลยมองว่า Apple พยายามหาเงินเพิ่มแบบเล็กๆน้อยๆด้วยการใช้วิธีไม่สะอาด... แต่ก็ต้องรอกันต่อไปว่าล็อตต่อๆไปจะเจอปัญหาไหม?

แต่หลังจากที่เกิดขึ้น ก็ทำให้คนที่ชอบจับผิดได้ไปหาวีดีโอเกี่ยวกับ iPhone 4 ที่ Apple ได้นำเสนอก่อนหน้านี้แต่ได้จับรูปในวีดีโอที่คนถือ iPhone 4 ด้วยมือซ้ายและมือโดนกับตัว Antenna ทำให้ตอนนี้ Apple ต้องรับศึกหนักเลยช่วงนี้...

สิ่งที่ต้องติดตามหลังจากนี้: - คำชี้แจงของ Apple แบบชัดเจนกว่าเดิม
                                            - ข้อเสียของ iPhone 4 จะมีอีกไหม?
                                            - เคส Bumper ช้วยแก้ปัญหาได้จริงหรือเปล่า....
                                            - ล็อตต่อไปของ iPhone 4 จะมีปัญหาอย่างนี้อีกไหม?

ขอขอบคุณบทความครั้งนี้ด้วยความคิดเห็นของผมและ PC World และ Mashable

สวัสดีครับ นี่ก็วันที่ 24 แล้วซึ่งเป็นวันที่ Apple ได้ส่งออก iPhone 4 สำหรับผู้ที่ Pre-Order เอาไว้ก่อนหน้านี้ และก็ขอแสดงความดีใจสำหรับผู้ที่ได้รับไปแล้วนะครับ (แหมมม... ปล่อยให้นั่งอิจฉาอยู่ที่บ้านนะเนี่ย) แต่มาถึงก่อนก็ไม่ได้แปลว่าจะดีนะครับ เพราะวันนี้หลังจากที่คนได้รับกันแล้วก็ได้มีการต่อว่ากันเยอะเพราะว่าถ้าเราย้อนกลับไปที่งาน WWDC ที่เพิ่งผ่านมา Steve Jobs ได้พูดถึงเส้นสองเส้นที่อยู่รอบข้างของ iPhone โดย Jobs ได้บอกว่ามันคือ "Antenna System" ซึ่งสำคัญมากในเรื่อง Connection และ Networking แต่ถ้าเราได้ฟังเขาอธิบาย มันจะมีอยู่สองอัน อันนึงอยู่ประมาณด้านล่างของข้างซ้าย

เขาได้สร้างอย่างนั้นมาก็จะให้มันทำงานเร็วขึ้นแต่ไม่เวิร์ค เพราะถ้าเราถือเครื่องด้วยมือข้างซ้าย มือเราก็จะไปปิดบังสัญญาณทำให้มันอ่อนมาก หรือเข้าขั้น No Service กันเลยทีเดียว... งานนี้ยังไม่มีวิธีแก้แต่ถ้าไม่อยากให้มันเกิดขั้นก็จงถึงเครื่องด้วยมือขวาสะ... ถ้าไม่เข้าใจเชิญชมวีดีโอเลย


ขอขอบคุณ Blognone และ Engadget

หลังจากที่ชาว Android ได้รอคอยมานาน และแล้วงาน Verizon Motorola Droid X ก็ได้ประกาศเปิดตัว Droid X อย่างที่ทุกคนคาดหมายเอาไว้ โดยก็เป็นอย่างที่คาดกัน Droid X มีหน้าจอขนาด 4.3นิ้ว มี 512MB DRAM, มีเมโมรี่ให้อยู่แล้ว 8GB แต่สามารถใส่ microSD ได้เพิ่มอีก 32GB, เป็นระบบ Android 2.1 และใช้ระบบ User Interface ของ MotoBLUR, กล้อง 8 ล้านพิกเซล และถ่ายวีดีโอได้เป็นระบบ HD 720p, มีแฟลช และอะไรทั่วๆไปอีกมากมาย

เครื่อง Droid X จะส่งออกจำหน่ายในวันที่ 15 กรกฎาคม และจะอยู่ที่ $199.99 พร้อมสัญญา Verizon Wireless อีกสองปี และค่าเซอร์วิซอีก $29.99 และใครที่สัญญา Verizon จะหมดปีนี้ก็สามารถอัพเกรดได้ Verizon ขอบอก...

ขอขอบคุณ BetaNews


- Posted using BlogPress from my iPhone

จะเป็นใครไปได้อีกละครับ นอกจาก Apple iPad นั่นเอง โดยวันนี้ก็ได้มีสรุปออกมาแล้วว่าตั้งแต่วางขายไป 80 วัน iPad ขายได้ไป 3,000,000 เครื่องแล้ว และใน AppStore ได้มีแอพสำหรับ iPad โดยเฉพาะแล้วกว่า 11,000 แอพ... ขอแสดงความยินดีด้วย

---จบข่าว---

ขอขอบคุณ Blognone

เมื่อวานนี้ Barnes and Nobles ได้ลดราคา E-Book ของตนที่ชื่อ Nook ซึ่งเป็นรุ่น 3G ที่ออกมา 6 เดือนก่อนหน้านี้ โดยลดจาก $259 เหลือเพียง $199 และยังอัพเกรดให้เป็นรุ่น 1.4 ที่สามารถเล่น WiFi ของ AT&T ได้ทั่วประเทศเลย และก็ยังออก Nook รุ่นใหม่ซึ่งเป้นรุ่น WiFi เฉยๆซึ่งราคาจะอยู่ที่ $149.99 และเป็นราคาเดียวกับ Border's Kobo เลยด้วย...


เอาละ และแล้วแชมป์เก่าอย่าง Amazon เจ้าพ่อแห่ง Kindle จะยอมได้ไง เมื่อเช้าที่ผ่านมาเลยถือโอกาสหั่นราคาเครื่อง Kindle 2 จาก $259 เหลือเพียง $189 หรือว่า $10 ถูกกว่าเจ้า Nook อีก... นี่แข่งกันสุดใจเลย แต่ยังไงก็ตาม Bloomberg ได้รายงานก่อนหน้านี้ว่าในเดือนสิงหานี้ Amazon จะออก Kindle ตัวใหม่ที่สวยบางกว่าเดิม นี่อาจเป็นแค่จุดเริ่มต้นก็ได้ครับ...

---จบข่าว---

ขอขอบคุณ Engadget และ MGR CBiZ

ก่อนที่คุณจะอ่านโพสต์ต่อไปนี้ให้จำไว้เลยนะครับว่าผมแปลมานะครับ และคนที่ใช้ iOS 4 อยู่ก็จะเข้าใจดีเลยครับ...

เอาละครับสวัสดีครับ เอาละ Microsoft ผมได้ลองใช้ Bing บน iPhone แล้วและได้เซ็ตให้เป็น Search Engine หลักของเครื่องเลย ลองเล่นมาหนึ่งอาทิตย์ แต่ใช้ไป ยังไงก็ไม่สามารถทำให้ผมหลงชอบ Bing มากกว่า Google เลย... ไม่ใกล้เลยด้วยซ้ำ...

Desktop
ปัญหาหนึ่งที่ผมเจอบ่อยๆบน Bing.com นั้นคือโฆษณามันเยอะเกิน และก็ชอบมาปนกับลิ้งค์ที่ผมจะคลิก ไม่เหมือน Google ที่มีโฆษณาเป็นที่เป็นทาง ไม่ไปรบกวนในการเซิร์ชของผม แต่เล่นกับ Bing แล้วมีความรู้สึกกว่ามันกำลังเล่นเกมกับผมอยู่...

Google บน iPhone
Google ค่อนข้างฉลาด เพราะว่าในการเลือกเป็น Search Engine ของทั้ง iPhone และ Android เหมือนได้นกสองตัวด้วยปืนหนึ่งนัด แล้วมันก็ออกมาดีมากด้วย น่าใช้ โฮมเพจของ Google ก็ดูสะอาด และก็มีช่องเซิร์ชที่ใหญ่ใช้ได้ ตัวอักษรก็อ่านง่ายบน iPhone รุปภาพและวีดีโอก็ทำ Interface ออกมาดีมาก และเหมาะมากสำหรับการใช้โทรศัพท์จอสัมผัส...

Bing บน iPhone
ผมได้พยายามสุดใจในการปรับตัวเองให้ชินกับ Bing แต่มันก็มีปัญหาเยอะเหมือนกันในการเซิร์ช หน้าแรกของ Bing ก็เหมือนหน้าขนาดยักษ์บนตัวอักษรที่เล็กเป็นบ้า แล้วในการเซิร์ชก็ไม่ดีและง่ายเท่า Google และในการมี Gadget เยอะเลยทำให้เซิร์ชนั้นไม่ดีและระเอียดเท่าที่ควร รูปภาพก็ไม่ได้มาจากเว็บที่เชื่อถือได้ Bing นั้นก็ดีอย่างนึงคือการในลิมค์มันขึ้นมาเยอะมาก และในฟอนต์ที่มันเล็กๆ มันก็ยากมากในการกดปุ่มเเบบ "Next" เอย "Previous" เอยเพราะมันติดกันมาก
และอีกอย่างที่ผมไม่ถูกใจอย่างมาก ถึงจะเรื่องเล็กๆแต่ก็ใหญ่สำหรับผม คือการลบคำที่จะเซิร์ช อย่าง Google มันยังมีปุ่ม "x" ในการลบทั้งหมดซึ่งอยู่ด้านขวา แต่ Bing ไม่มี!

เพื่อให้เรื่องยาวๆมันสั้นๆ ถ้าคุณชอบใช้ Google อยู่แล้ว งั้นก็อย่าเปลี่ยนเป็น Bing เลยครับ แต่ผมเชื่อว่ามันคงจะดีขึ้นในอนาคตโดยเฉพาะตอนที่ Windows Phone 7 ออกแล้ว แต่สำหรับตอนนี้มันเห่ยมาก...

ขอขอบคุณ JustAnotheriPhoneBlog

เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ Microsoft ได้เปิดตัวผลิตภัณท์ใหม่นั่นก็คือมือถือเล็กๆอย่าง Microsoft Kin ที่มุ่งเน้นไปทาง Social Networking ซึ่งหลายคนก็เคยคาดหวังกันว่าน่าจะประสบความสำเร็จในระดับนึง แต่มาถึงวันนี้ซึ่งเป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าๆแล้ว ก็ได้มีข่าวลือจากสำนักงานบางแห่งโดยอ้างว่า ผู้ให้จำหน่ายหรือโอเปอเรเตอร์อย่าง Verizon Wireless แห่งสหรัฐอเมริกามีการสั่งจองเครื่อง Kin ทั้งสองเครื่องนี่แค่ 500 เครื่อง ดูเหมือนถ้าทาง Kin ก็คงเป็นอีกหนึ่ง FAIL แห่ง Microsoft...

---จบข่าว---

ขอขอบคุณ Blognone

เอาละครับ นี่ก็ข่าวสั้นสำหรับงาน E3 ที่จัดขึ้นอยู่ตอนนี้นะครับ ก็คือ Microsoft Project Natal ก็ได้ชื่อเต็มตัวแล้วนั่นก็คือ Microsoft Kinect for XBOX 360 ครับ สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก Natal ด้วยซ้ำก็คือว่า มันเป็นเครื่องเล่นเกมแบบใหม่ที่ไม่ต้องใช้อะไรเลยนอกจากร่างกายมนุษย์เนี่ยแหละครับ

ขอขอบคุณ Redmond Pie และ Blognone

สวสัดีครับ จบไปแล้วกับวันแรกของงาน WorldWide Developer Conference หรืองาน WWDC ที่ทุกคนรอคอย ที่ปีนี้หลายคนคงได้ติดตามสดๆจาก LiveBlog ต่างๆครับ แต่ผมก็ได้ติดตามตั้งแต่เที่ยงคืนจนตีสอง โดยผมจะแปลให้จาก Engadget ไปเลยครับ


--- WWDC 2010 ---
00:01 - Steve Jobs เดินออกมาอย่างสง่างาม, ผู้เข้าร่วมงานปรบมือ
00:01 - Jobs: WOW ว้าวแฟลชหล้องมากมายเลย ขอบคุณคร้าบ ขอบคุณคร้าบ
00:02 - Jobs: เราจะมีงานสัมนาที่เยี่ยมสัปดาห์นี้ ผู้เข้าร่วมงานกว่า 5200 คน, มาร่วมจาก 57 ประเทศ, และบัตรขายหมดในเพียงแค่แปดวัน
00:02 - Jobs: แหม... เราต้องขอโทษจริงๆเพื่อนพ้องที่มาร่วมงานไม่ได้ แต่ที่นี่เป็นที่ที่ใฟญ่ที่สุดเท่าทีเราจะหาได้แล้วครับ
00:03 - Jobs: เราตื่นเต้นมากับงานวันนี้ และดีใจที่ทุกท่านสามารถมาร่วมงานได้
00:03 - Jobs: เอาละครับ เราก็อยากเริ่มต้นด้วยเรื่องของ iPad ตั้งแต่เรามีมัน มันทำให้เราได้เปลี่ยนวิธีการท่องเน็ต, อีเมล์, รูปภาพ, แผนที่, วีดีโอ, และอะไรอีกเยอะแยะ มันก็ทำให้เราได้เล่นแอพแบบใหม่ด้วย
00:04 - Jobs: มันมหัศจรรย์! ผมรู้เพราะวันนึงผมได้รับอีเมล์มาบอกว่า ผมนั่งอยู่ในร้านกาแฟพร้อมกับ iPad และก็มีหญิงสาวคนนึงสนใจในตัวผม นี่ไง... พิสูจได้ ---คนร่วมฮา---
00:05 - Jobs: เราขายได้ 2 ล้านเครื่องในเวลาแค่นี้ ก็เหมือนเราขายได้หนึ่งเครื่องทุกๆสามวินาที ต่างชาติก็ให้ความสำคัญกับมันมาก คนเขาบ้าคลั่งกันจริง...
00:06 - Jobs: เราขาย 10 ประเทศวันนี้ และก็จะขยายไปเป็น 19 ประเทศในเดือนหน้า และตอนนี้ก็มี 8500 แอพของ iPad ใน AppStore เล่นแอพ iPhone ก็ได้ แอพพวกนี้ได้ดาว์นโหลดไปกว่า 35ล้านครั้งแล้ว ก็ประมาณดูแล้ว iPad หนึ่งเครื่องมี 17 แอพ เดี๋ยวผมโชว์บางอย่างให้ดู...
00:07 - Jobs: นี่เป็นแอพที่เจ๋งมาก มันเรียกว่า The Elements
00:10 - Jobs: นักเขียนก็ได้บอกมาว่า ทุกวันนี้การขายหนังสือแบบ eBooks ขายไป 22% และ 22% ก็ขายได้ใน iBooks แต่วันนี้เราจะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง --- โน็ต, คุณสามารถเขียนโน็ตได้, ที่คั่นหนังสือ, และคุณก็สามารถสร้างหน้าใหม่เขียนโน็ตและที่คั่นได้
00:11 - Jobs: เราก็ทำให้สามารถอ่านไฟล์ PDF ได้ และเราก็ได้สร้างเแท็บใหม่ในแอพ เท่านั้นคุณก็มีชั้นหนังสือใหม่เอี่ยมเลย มันจะทำได้เร็วๆนี้ เอาละและนั่นก็จบสำหรับ iPad

00:12 - Jobs: ต่อมา ผมอยากจะพูดเรื่อง AppStore แต่ก่อนอื่น ผมอยากทำให้บางอย่างเคลียร์ก่อน เรารองรับ HTML5 เรารองรับเป็นสอง Platform มันเปิดกว้างและไม่มีใครหยุดได้ เราสนับสนุนอย่างเต็มที่
00:12 - Jobs: ใครๆก็เขียนแอพ HTML5 ได้ อย่างที่สองคือ AppStore เป็นร้านขายแอพที่เมพที่สุดในโลก (ศัพท์วัยรุ่นขอนิดนึง)
00:13 - Jobs: ตอนนี้เราก็มีสอง Platform เต็มที่แล้ว หลายท่านก็คงถามว่าวิธีการรับแอพโน้นแอพนี้เข้าไปใน AppStore เราทำยังไงกัน เรามีกว่าหมื่นแอพที่เราต้องรับประจำสัปดาห์ มันมากันประมาณ 30 ภาษา
00:13 - Jobs: และเดาสิอะไร 95% ของแอพเราสามารถรับได้ภายในแค่ 7วัน
00:14 - Jobs: แล้วอันที่เราไม่รับล่ะ... ทำไมละ 1เลยก็คือแอพที่จะขายนั้น ไม่สามารถทำสิ่งที่มันโฆษณาเอาไว้ (อันนี้ผมไม่เชื่อ) 2คือนักพัฒนาใช้โปรแกรงส่วนตัวหรือ Private API ในการทำ ซึ่งปรกติต้องใช้ชุด iPhone SDK เท่านั้น และ3แอพนั้นขัดข้องอยู่เรื่อย
00:15 - Jobs: ถ้าพวกคุณเป็นพวกผม พวกคุณก็คงมีเหตุผลส่วนตัว
00:16 - Jobs: ต่อมาผมก็อยากพูดเรื่อง eBay แปปนึง CEO ของ eBay ได้บอกว่า แอพeBayใน iPhone สามารถทำเงินให้ eBay ได้กว่า 600ล้านเหรียญกันมาเลยทีเดียว ต่อมาผมก็อยากพูดเรื่อง Netflix นิดนึง ขอเชิญ Reed Hastings จาก Netflix ออกมาพูดครับ
00:16 - Hastings: เราเพิ่งออก Netflix สำหรับ iPad และมันก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ผมภูมิใจที่จะประกาศว่า Netflix สำหรับ iPhoneกำลังจะมาครับ --- Hastings สาธิต Netflix ของ iPhone ---
00:19 - Jobs: สุดยอดเลยครับ ต่อมา Mark Pincus จาก Zygna จะออกมาพูด
00:19 - Pincus: ขอบคุณครับทุกท่าน วันนี้ผมจะเสนอการปลูกผักใน iPhone หรือ Farmville นั่นเอง เกมยอดฮิตใน Facebook พร้อมมาแบบโทรศัพท์แล้วครับ!!!
00:20 - Pincus: เรามีผู้เล่นกว่า 70ล้านคน เราสาทารถทำเงินได้ถึง 2ล้านเหรียญเพื่อเฮติ ---สาธิตการใช้งาน---
00:22 - Pincus: เรามีการเตือนแบบ Push Notification ด้วยเมื่อถึงเวลาปลุกผัก เล่นที่ไหนก็ได้ ขอบคุณครับติดตามได้ปลายเดือนนี้
00:23 - Pincus: ต่อมา Karthik Bala จาก ActiVision อยู่ที่นี่เพื่อจะพูดถึง Guitar Hero สำหรับ iPhone
00:24 - Bala: เราได้สร้าประสบการณ์ใหม่ในการใช้ iPhone และ iPod Touch 
00:24 - Bala: เกมนี้มาพร้อมเพลงจาก Queen และ Rolling Stones เหมือนของจริงเลย
00:25 - Bala: คุณก็มักเห็นเลยว่าทีมงานเราได้สร้างเกมนี้ให้มันดีเยี่ยม
00:26 - Bala: คุณสามารถสนุกกับเกมได้แล้ววันนี้ที่ AppStore ราคาไม่แพงอยู่ที่ $2.99 ขอบคุณครับ
00:27 - Jobs: สุดยอดเลย เอาละผมก็มีข้อมูลเจ๋งๆที่ผมอยากจะมาบอกทุกท่านด้วย เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเราก็ได้ผ่าน 5พันล้านดาวน์โหลดแล้ว และปรกติเราก็จะจ่าย 70% ให้กับนักพัฒนาและเชื่อหรือไม่ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเราก็จ่ายให้ไปเป็นมูลค่า 1พันล้านเหรียญ

00:28 - Jobs: สิ่งที่ทำให้ AppStore มันเทพไม่ใช่แค่เพราะคนที่ใช้ แต่เป็นเพราะนักพัฒนาเหมือนกัน ตอนนี้ผมจะขอพูดเรื่อง iPhone
00:29 - Jobs: จากการศึกษาและวิจัยของ Neilson การแบ่งการขายหรือ Marketshare ก็ได้แบ่งมา โดยอันดับหนึ่งคือ RIM หรือ BlackBerry แบ่งไป 35% iPhone 28% Windows 19% Android 9% และก็อื่นๆ 9% Neilson บอกว่าเรานั้นขายดีกว่า Android ถึงสามเท่าด้วยกัน
00:30 - Jobs: และก็อีกข้อมูลนึงก็คือเกี่ยวกับเบราเซอร์ของมือถือ โดย iPhone แชร์ไป 58.2% และรองมาก็ Android 22.7%
00:30 - Jobs: ถ้าเราย้อนกลับไปปี 2550 iPhone ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่โลก Smartphone ผมว่ามันยากที่จะจำได้ว่าก่อนที่ iPhone จะเกิดขึ้นมา มันเป็นอย่างไร
00:31 - Jobs: แล้วในปี 2551 มันก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเราได้ใส่ระบบ 3G เข้าไป และก็ AppStore ด้วย และเมื่อปีที่แล้ว iPhone3GS มันก็เร็วขึ้นอย่างมาก และยังถ่ายวีดีโอได้อีก ส่วนในปี 2553 เราก็จะทำให้มันมหัศจรรย์อีกครั้งครับ...
00:31 - Jobs: เราขอเปิดตัว iPhone 4
00:31 - Jobs: เอาละ นี่เป็นอะไรที่ร้อนแรงมากครับ มีอะไรใหม่ๆกว่า 100 อย่าง แต่ผมจะบอกแค่ 8 อย่าง อย่างแรกเลย... ดีไซน์ใหม่...
00:32 - Jobs: ผมไม่แน่ใจว่าคุณเคยเห็นมาก่อนหรือเปล่า... ผมว่าไม่นะ...
00:32 - Jobs: เป็นรุ่นที่สวยงามมาก ทั้งหน้าและหลังทำจากแก้ว และก็เหล็กอยู่รอบข้าง 
00:33 - Jobs: บางสวย นี่แหละ... iPhone 4
00:33 - Jobs: มันบางกว่า iPhone 3GS ถึง 24% เลย
00:33 - Jobs: ถ้าพูดตรงๆไปเลย มันเป็น Smartphone ที่บางที่สุดในโลก!!!
00:34 - Jobs: ด้านข้างก็จะมีปุ่มเพิ่มและลดเสียง ด้านหน้าเราก็มีกล้องตัวหน้า ถาดใส่ MicroSIM ส่วนข้างหลังก็มีกล้องและ LED Flash
00:34 - Jobs: ส่วนด้านล่างก็มีไมโครโฟน และส่วนหัวบนก็มีรูเสียบหูฟัง
00:34 - Jobs: หลายคนคงเห็นรูปมากมายและก็คงสงสัยว่าเส้นดำที่อยู่ส่วนหัวคืออะไร
00:35 - Jobs: อืมมม... ดูไม่เหมือนของ Apple เลย แต่จริงแล้วมันเป็นส่วนที่สำคัญมาก
00:36 - Jobs: มันเป็น Smartphone ที่บางที่สุดในโลก Design ก็เจ๋งมากครับ ผมว่าไม่มีใครทำได้เหมือนอีกแล้วล่ะ 

00:36 - Jobs: อย่างที่สอง เราเรียกว่า Retina Display แล้วมันคืออะไรละ? เราก็ทำให้พิกเซลมันมาขึ้นหรือคูน4นั่นเอง
00:37 - Jobs: แล้วมันสำคัญอย่างไรละ? เราลองวาดตัวอักษรสักตัวสิ แบบโค้งๆ ถ้าเรามีไอ้ตัวนี้คุณจะเห็นภาพชัดมันเพราะพิกเซลมันคูน4 หรือ 326 พิกเซลต่อหนึ่งนิ้ว
00:38 - Jobs: คงไม่มีใครนึกถึงเลย แต่ถ้ามองๆไปเลย มันชัดเหมือนอ่านหนังสือเลย
00:39 - Jobs: Retina Display ไม่ใช่แค่ตัวหนังสือเท่านั้นแต่ก็สามารถใช้ได้กับวีดีโอและรูปภาพได้เหมือนกัน เจ๋งใช่ไหมละ...
--- Steve Jobs สาธิตทั้งเครื่อง iPhone 3GS และ iPhone 4 ว่าความชัดมันต่างกันมากแค่ไหน---
00:44 - Jobs: เอาละครับ 960 x 640 พิกเซลส์, 800:1 ระดับแบบจอ... เจ๋งกว่า 3GS หลายเท่า, มี IPS Technology ซึ่ง ดีกว่าจอ OLED นิดนึง
00:45 - Jobs: จอก็ 3.5 นิ้ว และก็ความชัดเท่ากับ 78% ของ iPad
00:46 - ด้วยจอชัดแป๋ว ทำให้เล่นแอพหรืออย่างอื่นได้ดีกว่าเดิมด้วยครับ เพราะฉะนั้นเราจะไปต่อกันเลย

00:48 - Jobs: อย่างที่สาม iPhone 4 ใช้ชิพ A4 เหมือนกับของ iPad ซึ่งเราก็ทำขึ้นมาเอง และมันกินที่มาก เราเลยจำเป็นต้องใช้เป็น MicroSIM แทน...
00:48 - Jobs: เพราะแบตเตอรี่มันใหญ่ขึ้น มันเลยดีขึ้นอย่างเห็นๆ สามารถคุยบนระบบ 3G ได้ 7 ชั่วโมง, 6 ชั่วโมงในการเล่นเว็บผ่าน 3G, 10 ขั่วโมงผ่าน WiFi, 10 ชั่วโมงของวีดีโอ, และ 40 ชั่วโมงในการฟังเพลง
00:49 - Jobs: และก็ Standby ได้ 300 ชั่วโมง
00:49 - Jobs: ใช้ไดเป็น Quadband HSDPA และก็ได้ถึง 7.2Mbps, มีไมค์สองตัว, รองรับ WiFi 802.11n, มี GPS, เช็มทิศ, และ Accelerometer
00:50 - Jobs: อย่างที่สี่คือเราได้ใส่ฮาร์ดแวร์ใหม่ นั่นก็คือ Gyroscope และก็เล่นได้เป็น 3-Axis Gyro
00:51 - Jobs: ผมจะลองหนึ่งเกม เป็นเหมือนหมุนตึกไม้เพื่อแสดงความเป็น Gyro
--- ระหว่างที่ Steve Jobs กำลังสาธิตมันก็พิสูจได้ว่าการมี Gyro แปลว่า iPhone สามารถหมุนหรือหันตามทิศได้จริงๆ --- 

00:53 - Jobs: เอาละครับว่าเรื่องที่สี่ก็จบไป คราวนี้มาเรื่องที่ห้ากันบ้าง กล้องแบบใหม่เลย...
00:54 - Jobs: พวกเราได้เปลี่ยนจาก 3 ล้านพิกเซลเป็น 5 ล้านพิกเซลพร้อมภาพที่ชัดกว่าเดิม
00:55 - Jobs: และเราก็มี LED Flash เช่นกัน
--- Steve Jobs โชว์ภาพที่ถ่ายจาก iPhone 4 ที่ชัดมาก ---
00:56 - Jobs: เราภูมิใจมากที่มีกล้องเจ๋ง แต่ยังไม่หมดเพราะเราก็มีกล้องวีดีโอแบบ HD อีกด้วย -- 720p ที่ 30fps
00:57 - Jobs: ในการถ่ายวีดีโอ เราก็มี Tap to Focus ด้วย และก็ยังเปิดแฟลชไว้อยู่ได้เวลาถ่ายวีดีโอ แล้วคุณก็ถ่าย ตัดต่อ และส่งอีเมล์ต่อผ่านไปได้เลย... มันค่อนข้างมหัศจรรย์ ผมขอเสนอ iMovie for iPhone ขอต้อนรับ Randy Obillos
00:58 - Obillos: ขอบคุณมากครับ ผมได้ทำงานทางด้านแอพมานานแล้ว และปีนี้ผมก็ได้ทำ iMovie for iPhone มา ผมตื่นเต้นที่จะนำเสนอ 
00:59 - Obillos: คุณสามารถตัดต่อวีดีโอได้ 
01:00 - Obillos: สามารถใส่รูปได้และก็ animation และก็ไตเติ้ลได้อีกด้วย
01:01 - Obillos: มี Theme เจ๋งถึง 5 แบบ และก็ยัง export ได้ชัดถึง 720p
01:03 - Obillos: ขอบคุณมากครับ
01:03 - Jobs: เป็นไง เจ๋งไหม คุณสามารถซื้อได้ในราคา $4.99
01:04 - Jobs: และนั่นก็คือหมายเลข 5 ครับ

--- ในช่วงระหว่างนี้ Steve Jobs ขอร้องให้ทุกคนปิด WiFi เนื่องจากจะประสปปัญหาในการทำ Speed Test ของ iPhone 4 และ iPhone 3GS ---
01:06 - Jobs: เอาละครับทุกท่าน เรื่องที่ 6 ครับ ก็คือ iPhone OS 4, ระบบปฏิบัติการที่ทันสมัยที่สุดในโลก (อันนี้ Jobs พูดนะ ผมไม่ได้แต่งเอง อุอุ) แต่ก่อนอื่น เราก็ขอเปลี่ยนชื่อมัน...
01:06 - Jobs: iOS 4!
01:08 - Jobs: ไอ้ตัวนี้มันก็มีอะไรใหม่ๆเด่นๆหลายอย่าง อย่างแรกเลยก็คือ Multitasking, หลายคนบอกเราว่า พวกเราไม่ใช่คนแรกที่ทำ แต่เราก็ทำแหละ และเขายังบอกอีกด้วยว่าถ้าคุณทำไม่ถูกวิธี คุณฆ่าแบตเตอรี่ของคุณเลยเชียว...
01:08 - Jobs: และเราก็ก็เพิ่ม Folders ด้วยหรือแฟ้มเอาไว้เก็บแอพนั่นเอง เราเพิ่มอะไรใหม่ไว้เยอะมาก เราไม่มีเวลาสาธิตทั้งหมดหรอก...

--- Jobs ได้สาธิตการทำ Multitasking, สาธิตเรื่องการเก็บเมล์หลายชื่อไว้อยู่ในโฟลเดอร์เดียวกัน, การเก็บแอพไปใส่ใน Folder, และสาธิตเรื่องการทำระบบ Enterprise ใน iPhone ---

01:13 - Jobs: ทุกครั้งใน Safari เราจะมี Search Engine ที่อยู่ด้านขวาบน โดยปรกติเราจะมีแค่ Google และ Yahoo แต่ครั้งนี้เราจะเพิ่มมาอีกอันคือ Bing ---(โอโห ช็อคโลกจริงๆๆๆๆ)
01:14 - Jobs: ผมต้องขอชมเชย Microsoft จริงๆ เขาทำได้ดีพอสมควรเลย... ลองดูดิ เจ๋งเหมือนกัน
01:14 - Jobs: ส่วน iOS 4 ก็จะออกให้กับนักพัฒนาทุกคนให้ไปลองดูแล้ววันนี้ ส่วนสำหรับคนธรรมดา มันจะมาเร็วๆนี้
01:15 - Jobs: เราเชื่อเราจะขายไอ้ตัว iOS 4 ได้ประมาณ 100ล้านครั้งแน่นอนเดือนนี้

01:15 - Jobs: เอาละ เรื่องที่ 7 ก็เกี่ยวกับ iBooks ... มันจะได้อยู่ใน iPhone แล้วครับ!!!
01:16 - Jobs: เป็นชั้นเก็บหนังสือเหมือนเจ้า iBooks ปรกติแหละ พร้อมอ่านไฟล์ PDF ได้ด้วย เราตื่นเต้นกับมันมาก และก็แน่นอน เราก็จะใส่ iBookstore ให้กับใน iPhone คุณด้วย
01:17 - Jobs: เรามีบน iPhone, iPod Touch, และ iPad แล้วเราจะทำอะไรด้วยกันได้? แน่นอนคุณสามารถดาว์นโหลดหรือซื้อหนังสือได้ และสามารถโหลดเล่มที่เคยซื้อไปแล้วไปลงเครื่องอื่นได้ โดยไม่คิดตังค์เพิ่ม และก็สามารถ Sync ไร้สายแบบ iPad-iPhone หรือ iPad-iPod ได้ โดยมันจะโหลดโน็ตและที่คั่นไปด้วยเลย

--- ในช่วงนี้ Steve Jobs ได้สาธิตการทำที่คั่นและก็ทำโน็ต ใน iBooks ของ iPhone ---
01:20 - Jobs: มันเจ๋งมาก เท่ห์โครตเลย และนี่คือ iBooks
01:21 - Jobs: และตอนนี้ iBooks ก็มี iBookstore และตตอนนี้มันก็ร่วมกับ iTunes และ AppStore รวมกัน เรามีมากกว่า 150ล้านแอคเคานต์ ... เราคิดว่าเรามีมากที่สุดในโลก เราเป็นอันดับหนึ่งครับพี่น้อง!!!

01:21 - Jobs: เอาละและนั่นก็เรื่องที่ 7 คราวเรามาเรื่องที่แปดกันเลย ... เรื่อง iAds ทำไมเราต้องมี iAds? ก็ช่วยนักพัฒนาได้เงินมากขึ้นและจะได้สร้างแอพถูกๆไง

--- Steve Jobs ได้สาธิตว่า iAds มันเป็นไง โดยจริงๆแล้วก็เป็นเหมือนโฆษณาไม่ว่าจะเป็นแบบ Banner หรือเป็น Video ก็ตามแต่แบบเวลาเราสนใจ เราก็กดไป แล้วมันก็จะทำอะไรของมันโดยที่เราไม่ต้องออกจากแอพที่เรากำลังใช้อยู่ น่าสนใจมากในความคิดผม ---
01:29 - Jobs: แล้วนั่นก็คือ iAds ที่เราจะเปิดให้ทุกคนได้ใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม พร้อมๆกับ iOS 4
01:30 - Jobs: ผมเชื่อว่า iAds จะได้ใช้ 48% ของการโฆษณาในโทรศัพท์ในครึ่งสองของปีนี้

01:31 - Jobs: เอาละครับ และนั่นก็คือแปดอย่างที่ผมอยากจะพูดเกี่ยวกับ iPhone 4 แล้วพวกคุณคิดไงละ? ---ผู้ชมเฮ---
01:32 - Jobs: เราก็ภูมิใจมากครับ แต่มันยังมีอีกอย่างนึง...
01:32 - Jobs: เมื่อปี 2550 ที่เราได้เปิตัว iPhone ผมก็เคยได้โทรหา Jony Ive และแล้ววันนี้เราก็จะโทรหาเขาอีกครั้ง แต่เป็นแบบ Video Call
---และเขาก็รับโทรศัพท์---
01:32 - Jobs: มีการขัดข้องเล็กน้อย โดยปรกติมันจะไม่มีปัญหาอย่างนี้หรอก แต่เพราะ WiFi ที่ต่ำ
01:33 - Jobs -- Jony: ฮัลโหล หวัดดีนี่ Jony เป็นไงบ้าง?
01:35 - Jobs -- Jony: คุณรู้ไหม ตอนผมเด็กๆ ผมก็เกิดมาพร้อมกับการ์ตูน The Jetsons แหละ และในเรื่องก็มี Video Call มันเท่ห์มาก แล้ววันนี้มันก็เป็นจริงแล้ว แล้วคุณละ?
01:35 - Jony -- Jobs: ผมก็เกิดมาดูการ์ตูนเหมือนกับคุณ แล้วมันก็จริงแล้วด้วย
01:35 - Jobs -- Jony: มันจัจริงกว่าถ้าคนพวกนี้ปิด WiFi!
01:35 - Jony -- Jobs: เราคงต้องรออีกนานแสนนานกว่านี่จะเป็นจริง
01:35 - Jobs -- Jony: งั้นก็ดี แล้วเราไปกินข้าวกัน...
01:35 - Jobs: เอาละครับ นี่เขาเรียกว่า FaceTime ต้องผ่าน WiFi เท่านั้น และก็ได้แค่ iPhone 4 - iPhone 4 และก็ไม่ต้องติดตั้งอะไรทั้งนั้น
01:36 - Jobs: คุณภาพและเสียงดีเยี่ยม แต่มันจะทำผ่าน WiFi แค่ในปีนั้เท่านั้น เราคงต้องแก้เรื่องสัญญาณสักนิด
01:36 - Jobs: เอาละครับ และนี่ก็คือ FaceTime และเราก็ทำวีดีโอเดโมมาเล็กๆมาให้ดูกัน


01:40 - Jobs: และ FaceTime นั่นก็คือหมายเลข 9 ของเรา และทั้งหมดนั่นก็คือ iPhone 4 และเราก็คิดว่านั่นเป็นการกลับมาครั้งใหญ่หลังจากการเปิดตัว iPhone ตัวแรกเมื่อ 3 ปีก่อน
01:41 - Jobs: แต่อีกเรื่องที่เราคงลืมพูดกันไม่ได้ก็คือเรื่องราคา... เรามีสองสี สีดำและสีขาว ราคาอยู่ที่ $199 สำหรับ 16GB และ $299 สำหรับ 32GB (แต่ราคานี้ติดสัญญา AT&T สองปีนะพี่น้อง) ส่วนผู้ที่สัญญา AT&T จะหมดในปีนี้ คุณสามารถอัพเกรดมันได้ ไม่ติดต่อกันเอาเองละกัน
01:42 - Jobs: ส่วน iPhone 3GS ก็จะมาในราคา $99 และเป็นแบบ 8GB นะครับ ทุกอย่างนี้วางขายแน่ 24 เดือนนี้ ซึ่งจะแค่ 5 ประเทศก่อน เช่นอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ และ ฝรั่งเศส และเราก็จะส่งไปอีก 18 ประเทศในเดือนหน้า
01:44 - Jobs: ก่อนจะจากกัน ผมก็อยากพูดเรื่อง iOS 4 สักเล็กน้อย สำหรับ iPhone 3G ฟีเจอร์ของ iOS 4 บางส่วนก็ไม่สามารถใช้งานได้ และก็ iPod Touch 2G เหมือนกัน ส่วน iPhone 2G และ iPod Touch 1G ไม่ได้เลยครับ การอัพนั้นฟรีหมดครับ 
01:45 - Jobs: และแล้วเราก็หาวิธีให้มันอัพฟรีได้แล้วสำหรับ iPod Touch เย้ๆๆ อัพได้ฟรีได้วันที่ 21 ที่จะถึงนี้ครับ 
01:46 - Jobs: และนั่นก็คือ iPhone 4 และ iOS 4 ขอบคุณมากครับ และผมก็มีวีดีโอมาให้ดูครับ...


แปลจาก LiveBlog เขียนโดย Justin Glow, Dan Chilton, Blogsmith, และ Netops Team ครับ


ขอขอบคุณ Engadget และตัวผมเอง :)

หลังที่ช่งหนึ่งถ้าได้ติดตามเว็ปไอทีอื่นๆ ก็เห็นภาพหลุดมากมายของเจ้า BlackBerry Bold 9800 Slider ที่จะเป็นรูปทรงสูงๆและจะเห็นเป็นจอสัมผัสพร้อมมีคีย์บอร์ด QWERTY โดยวันนี้ก็ได้มีภาพหลุดเป็นชุดเหมือนเวลาถ่ายภาพของเจ้าตัวนี้เลย ลองเข้าไปดูได้ที่นี่ โดยจากภาพที่เราเห็น มันจะดูคล้าย BB Storm + Bold ที่มีเป็น TrackPad ที่คลาสสิคมากสำหรับ BB และเป็นจอสัมผัสที่ดูใหญ่พอสมควรคล้ายๆ Storm และก็ยังสไลด์เป็น QWERTY Keyboard สไตล์ BB ได้อีกด้วย มีสล็อต MicroSD Card อีกด้วย โดยได้ทีการแสดงให้เห็นถึงตัวนี้ใช้ BlackBerry OS 6.0 ด้วย ส่วนราคาและเมื่อไหร่จะออก เดี๋ยวเราจะมากอัพเดทกันทีหลังครับ

นอกเรื่อง: อย่าลืม WWDC คืนนี้ครับ

ขอขอบคุณ PDAMobiz

สวัสดีครับพี่น้องทุกท่าน ในวันพรุ่งนี้หรือวันจันทร์ที่7มิถุนายนนี้ก็ะถึงงาน WorldWide Developer Conference หรือ WWDC2010 ที่ Steve Jobs จะปรากฏตัวอีกคั้งบอกถึงอะไรที่จะออกใหม่... และวันนี้เพื่อเป็นการเตรียมตัว Thai-IT-Talk จะเสนอข่าวลือที่คาดกันว่าจะได้เสนอในงาน WWDC2010 ครับ
  • iPhone4G: อันนี้ก็คงแน่นอนอยู่แล้วเพราะทุกปี iPhone รุ่นใหม่ๆมันจะเสนอในงานนี้แหละ แต่ถ้าท่านได้ติดตามข่าวอย่างมากก็จะเห็นว่าช่วงที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับ iPhone4G อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น GizModo ได้เครื่องมา เราต้องพิสูจกันว่ามันจริงหรือเท็จ โดยข่าวลือเกี่ยวกับ iPhone4G ก็มีมากซะเหลือเกิน มีดังนี้
    • คาดว่าน่าจะชื่อ iPhoneHD
    • จอ HD ที่ใหญ่ชัดกว่าตัวเดิม
    • อายุแบตเตอรี่น่าจะนานกว่าปรกติ 20%
    • น่าจะเปลี่ยนเป็นชิพโปรเซสเซอร์เป็น Apple A4 แบบ iPad
    • กล้องตัวหน้าสำหรับ Video Conference
    • กล้องที่อัพเกรด 5ล้านพิกเซล พร้อมอาจมี LED Flash
    • สีหลากหลาย
  • Mac Mini: เครื่อง Mac Mini ที่คนชอบกันนักหนาก็เชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่คาดกันว่า Apple อาจจะทำให้ไอ้ตัวนี้รองรับ HDMI ที่จะทำให้รองรับ HDTV ได้
  • HTML5: หลังจากที่ Steve Jobs ไอ้เคยออกมาพูดเรื่อง Flash และได้สนับสนุน HTML5 ครั้งนี้ก็น่าจะเป็นไปได้สูงที่ HTML5 จะปรากฏและ Safari 5 ที่คาดว่าจะมาด้วยก็จะซับพอร์ต
  • การปรับปรุงใหม่ของ iTunes: หลังที่ Apple ได้ฮุบ Lala เราก็คาดว่ามันน่าจะมีอะไรใหม่ๆ
  • iPhone OS 4.0: งานนี้เราน่าจะเห็น Feature เต็มของระบบปฏิบัติการใหม่นี้
สิ่งที่เราไม่น่าจะเห็น...
  • iPhone 4G ในฉบับ Verizon Wireless
  • Apple TV ตัวใหม่
  • การอธิบายและชี้แจงเกี่ยวกับ Gizmodo
อย่างไรก็ตามเราก็ยังต้องติดตามต่อไปในวันพรุ่งนี้ ในคืนวันจันทร์หรือเที่ยวคืนของวันอังคารนั่นเอง

---ขอให้ติดตามอย่างสนุก---

ขอขอบคุณ MacRumors และ FastCompany

    สมัครสมาชิก: บทความ (Atom)